.พระที่นั่งวิมานเมฆ.
พระที่นั่งวิมานเมฆ
(ภาษาอังกฤษ - Vimanmek Mansion)
เป็นพระที่นั่งในพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร
ประวัติ
พระที่นั่งวิมานเมฆเป็นพระที่นั่งที่สร้างด้วยไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก
และเป็นพระที่นั่งถาวรองค์แรกในพระราชวังดุสิต
![]() |
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นในพระราชวังดุสิต
(ซึ่งในรัชสมัยของพระองค์เรียกว่า
พระราชวังสวนดุสิต) ใน
พ.ศ. 2444
โดยโปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ ที่โปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นที่เกาะสีชังเมื่อ
พ.ศ. 2435
แต่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์
โดยโปรดเกล้าฯ ให้พระราชโยธาเทพ
(กร หงสกุล
ต่อมาเป็นพระยาราชสงคราม) เป็นนายงานรื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์จากเกาะสีชังมาสร้างในสวนดุสิต
และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งวิมานเมฆ"
และทรงวางศิลาฤกษ์พระที่นั่งเมื่อวันที่
31 สิงหาคม พ.ศ. 2443
โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงกำกับการออกแบบ
และ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้มีการเฉลิมพระที่นั่งวิมานเมฆ
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2445
![]() |
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ |
พระที่นั่งวิมานเมฆสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง
มีลักษณทางสถาปัตยกรรมที่งดงามประณีตและได้รับอิทธิพลการก่อสร้างแบบตะวันตก
การก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม
พ.ศ.
2444 และได้เสด็จมาประทับที่พระที่นั่งวิมานเมฆ
จนกระทั่งพระที่นั่งอัมพรสถาน ซึ่งโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2445
สร้างเสร็จเรียบร้อยใน พ.ศ. 2449
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่พระที่นั่งอัมพรสถานเป็นการถาวร
จนกระทั่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่
23 ตุลาคม พ.ศ. 2453
และพระที่นั่งวิมานเมฆยังคงเป็นสถานที่ประทับของเจ้านายจนกระทั่งสิ้นรัชกาล
เจ้านายฝ่ายในและข้าราชบริพารจึงได้กลับมาประทับที่พระบรมมหาราชวัง
![]() ฐานรากของ |
พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ บนเกาะสีชัง |
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ
ให้สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาประทับที่พระที่นั่งวิมานเมฆใน
พ.ศ. 2468
แต่เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่
25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468
สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี
พระวรราชายา ก็ทรงย้ายออกจากพระที่นั่งวิมานเมฆ
และจากนั้นมา พระที่นั่งวิมานเมฆก็มิได้เป็นพระราชฐานที่ประทับของเจ้านายอีก

ในรัชกาลปัจจุบัน
พ.ศ. 2525
ซึ่งเป็นปีที่ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงขอพระบรมราชานุญาตซ่อมพระที่นั่งวิมานเมฆ
เพื่อจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ปัจจุบันพระที่นั่งวิมานเมฆเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในความดูแลของสำนักพระราชวัง รวมทั้งหมู่พระตำหนักของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในด้วย
ลักษณะขององค์พระที่นั่ง
พระที่นั่งองค์นี้
เป็นอาคารแบบวิกตอเรีย ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมยุโรป
ผสมกับไทยประยุกต์ องค์พระที่นั่งเป็นรูปอักษรตัวแอล
(L) ในภาษาอังกฤษ ยาวด้านละ
60 เมตร สูง
20 เมตร เป็นอาคาร
3 ชั้น ยกเว้นตรงส่วนที่ประทับซึ่งมีรูปร่างเป็นแปดเหลี่ยม มี
4 ชั้น ชั้นล่างสุดก่ออิฐ
ถือปูน ชั้นถัดขึ้นไปสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหมดทาด้วยสีครีมอ่อนหลังคาสีแดง
และหลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์
มีลวดลายตามหน้าต่าง และช่องลมซึ่งฉลุเป็นลายที่เรียกว่าขนมปังขิง
เรือนขนมปังขิง
เป็นชื่อเรียกอาคารประเภทหนึ่ง
ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก
ซึ่งแพร่เข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่
4 มีการประดับตกแต่ลวดลายฉลุที่วิจิตรพิสดาร
หรูหรา สวยงามเหมือนขนมปังขิง
![]() |
บ้านวงศ์บุรี จังหวัดแพร่ ตัวอย่างเรือนขนมปังขิงในไทย |
สำหรับพระที่นั่งวิมานเมฆนี้จะแบ่งเป็นห้องชุดต่างๆ
5 สีด้วยกัน คือสีฟ้า เขียว ชมพู งาช้าง และสีลูกพีช (ชมพูอมส้ม)
- สีงาช้าง
อยู่ในพระราชอำนาจของสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลย์มารศรีซึ่งอยู่ในมุขแปดเหลี่ยม
- สีลูกพีช
จัดเป็นห้องชุดเพราะประกอบด้วยห้องพระบรรทม ห้องพระอักษร
ห้องแต่งพระองค์และห้องน้ำซึ่งเป็นห้องที่ทันสมัยมากทุกอย่างถูกจัดให้ใกล้เคียงกับครั้งอดีตทั้งหมด
- สีชมพู อันเป็นหมู่สีสุดท้าย
จัดแสดงเป็นห้องแบบไทย ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายห้องชุด แต่เป็นห้องเดียว
เพียงแต่การจัดห้องออกเป็นมุมต่างๆ มีทั้งส่วนห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องนั่งเล่น
และห้องอาหารอยู่ในการดูแลของ พระวิมาดาเธอ
ทุกหมู่สีจะมีบันไดเป็นของตัวเอง
เรียกว่าขึ้นลงเข้าออกได้ไม่ปะปนกันเลยมีทั้งหมดตั้ง 19 บันได
มีห้องจัดแสดงรวมทั้งสิ้น
31 ห้อง การจัดแสดงบางห้องยังคงลักษณะบรรยากาศในอดีตไว้ เช่น หมู่ห้องพระบรรทม
ท้องพระโรงและห้องสรง เป็นต้น แต่ละห้องจะจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของรัชกาลที่
5 รวมถึงเจ้านายชั้นสูง เช่น ห้องสีเขียว เป็นห้องเครื่องเงินจากประเทศจีน
ส่วนชั้นสองเป็นห้องทรงงานของรัชกาลที่ 5 และห้องบนชั้นสามจะเป็นห้องบรรทม แต่ห้องที่งดงามที่สุดในพระที่นั่งวิมานเมฆเห็นจะเป็นห้องท้องพระโรง
ที่มีบรรยากาศขรึมขลังอลังการมากที่สุด บางห้องจัดแสดงศิลปวัตถุแยกตามประเภทเช่น
ห้องจัดแสดงเครื่องเงิน ห้องจัดแสดงเครื่องกระเบื้องลายคราม
ห้องจัดแสดงเครื่องแก้วเจียระไน และห้องจัดแสดงเครื่องงา เป็นต้น
นอกจากพระที่นั่งวิมานเมฆภายในบริเวณสวนดุสิตหรือวังสวนดุสิตนี้ (ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามใหม่ว่า
“พระราชวังดุสิต” และเรียกขานนามนี้มาจนถึงปัจจุบัน)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน
ที่ดินสำหรับสร้างพระตำหนัก และตำหนักที่ประทับของพระมเหสีพระเจ้าลูกเธอและเจ้าจอมมารดาเป็นส่วน
ๆ และพระราชทานชื่อสวน คลอง ประตู และถนนต่าง ๆ ตามชื่อเครื่องลายครามของจีน
ที่เรียกกันว่า “เครื่องกิมตึ๋ง” ซึ่งนิยมสะสมกันในสมัยนั้น
ปัจจุบันหมู่พระตำหนักของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในดังกล่าว
ได้เปิดจัดแสดงพร้อมด้วยโรงรถม้าพระที่นั่งให้ประชาชนได้เข้าชมด้วยเช่นกัน